การใช้กัญชาเพื่อการรักษาโรคถือเป็นเรื่องที่กำลังได้รับความสนใจและสำรวจในหลายประเทศ แต่ควรระมัดระวังว่าการใช้กัญชาในทางการแพทย์ต้องได้รับอนุญาตจากหมอหรือระบบกฎหมายที่มีอำนาจในท้องถิ่นของคุณ นี่คือบางโรคที่มีการรักษาด้วยกัญชาและสารที่เรียกว่า CBD (cannabidiol) หรือ THC

โรค ที่มีการรักษาด้วยกัญชา

  1. โรค ลิขิตชัน (Epilepsy): กัญชาและสาร CBD มีศักยภาพในการลดจำนวนของอาการลิขิตชันในบางผู้ป่วยโรคลิขิตชันที่ไม่ตอบสนองต่อยาต้านลิขิตชันแบบปกติ สาร CBD ได้รับการสนับสนุนในการรักษาเป็นพิเศษ.
  2. นอกจากนี้ยังมีรายงานการใช้กัญชาหรือสาร CBD ในการรักษาโรคอื่น ๆ อีกมาก รวมถึง:
    • โรค ประสาทส่วนประสาทส่วนส่วนกลาง (Multiple Sclerosis): กัญชาและสาร CBD มีศักยภาพในการลดอาการเจ็บปวดและกล้ามเนื้อแขนและขาอ่อนแรงในผู้ป่วยโรคประสาทส่วนกลาง.
    • โรค ตั้งแต่อาการอัตราการเต้นหัวใจสูง (Hypertension): บางงานวิจัยรายงานว่า CBD อาจช่วยลดความดันโลหิตในบางบุคคล.
    • โรค กระดูกและข้อ (Arthritis): CBD อาจช่วยลดอาการปวดและการอักเสบในข้อของบางผู้ป่วยโรคกระดูกและข้อ.
    • โรค อาการทางจิต (Psychiatric Disorders): กัญชาและสาร CBD ได้รับความสนใจในการรักษาอาการทางจิตเช่น วิตกจริต, ซึมเศร้า, และความวิตกกังวล แต่การใช้ในระดับนี้ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังและต้องได้รับคำแนะนำจากหมอ

โรค ประสาทส่วนประสาทส่วนส่วนกลาง (Multiple Sclerosis)

ในศึกษาและวิจัยทางการแพทย์มีการสำรวจในแง่ของการใช้กัญชาและสาร CBD ในการรักษาผู้ป่วยโรคประสาทส่วนกลาง (Multiple Sclerosis) โรคนี้เป็นภาวะที่เกิดจากการทำลายของสิ่งชี้ชี้ระหว่างเส้นใยประสาทในสมองและประสาทระหว่างสมอง ทำให้ผู้ป่วยมีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ อาการลิขิตชัน ปวด และอาการทางสมองอื่น ๆ

การใช้กัญชาและสาร CBD ในการรักษาโรคประสาทส่วนกลางยังไม่ได้รับการยืนยันในประเทศหลายแห่ง แต่มีข้อมูลการวิจัยและรายงานของผู้ป่วยที่รายงานว่าการใช้กัญชาหรือสาร CBD อาจช่วยลดอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ ลดความปวด และทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นในบางกรณี นี่เป็นสิ่งที่อาจช่วยให้ผู้ป่วยโรคประสาทส่วนกลางมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น.

โรค ตั้งแต่อาการอัตราการเต้นหัวใจสูง (Hypertension):

การใช้กัญชาในการรักษาโรคตั้งแต่อาการอัตราการเต้นหัวใจสูง (Hypertension) เป็นเรื่องที่ยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างชัดเจนในทางการแพทย์ และยังคงเป็นเรื่องที่กำลังได้รับการศึกษาอย่างระมัดระวัง

บางวิจัยได้พบว่า THC (delta-9-tetrahydrocannabinol) ที่พบในกัญชาอาจส่งผลให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นในบางกรณี แต่ก็มีวิจัยอื่น ๆ ที่ไม่พบผลกระทบทางการเสพติดครับ การผลักดันความดันโลหิตเป็นปัจจัยที่มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด ดังนั้นการใช้กัญชาในกรณีที่คุณมีปัญหาเรื่องความดันโลหิตควรให้คำปรึกษาแก่แพทย์ของคุณเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อประเมินความเสี่ยงและคำแนะนำการรักษาที่เหมาะสม

สาร CBD (cannabidiol) อาจมีความสามารถในการลดความดันโลหิตในบางบุคคล แต่ก็ควรใช้โดยระมัดระวังและควรปรึกษาหมอก่อนการใช้ เพราะการใช้สาร CBD อาจมีผลข้างเคียงและปฏิกิริยากับยาอื่น ๆ ที่คุณอาจกำลังใช้ในการควบคุมความดันโลหิต

โรค อาการทางจิต (Psychiatric Disorders)

การใช้กัญชาในกรณีของโรคอาการทางจิต (Psychiatric Disorders) เป็นเรื่องที่ซับซ้อนและต้องระมัดระวังอย่างมาก เนื่องจากกัญชามีผลกระทบทางจิตภาพและสามารถกระตุ้นหรือเพิ่มความเสี่ยงให้กับบางบุคคลที่มีประสิทธิภาพในการเกิดอาการทางจิต. นี่คือบางข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบของกัญชาต่อโรคอาการทางจิต:

  1. วิตกจริต (Schizophrenia): การใช้กัญชาอาจเพิ่มความเสี่ยงให้กับบุคคลที่มีประสาทที่บกพร่องในการเกิดวิตกจริตหรือมีประวัติครอบครัวเกี่ยวกับโรคนี้ กัญชาสามารถเพิ่มอาการของวิตกจริตและทำให้อาการมีอาการรุนแรงขึ้น.
  2. ซึมเศร้า (Depression): การใช้กัญชาในบางกรณีอาจทำให้ผู้ใช้รู้สึกมีความสุขชั่วคราว แต่ส่วนใหญ่มักมีผลทำให้มีอาการมึนเมาที่ยากต่อการปฏิบัติตัวและการคิดให้เป็นไปตามปกติ ซึ่งอาจทำให้มีผลกระทบต่อโรคซึมเศร้า.
  3. ความวิตกกังวล (Anxiety Disorders): ในบางกรณี กัญชาอาจทำให้ผู้ใช้รู้สึกมีความวิตกกังวลและสับสนมากขึ้น นอกจากนี้ การใช้สาร THC ที่มีในกัญชาอาจส่งผลกระทบต่อระบบประสาททางสัมผัสและทำให้รู้สึกบริเวณผิวของตัวเองเปลี่ยนแปลง.

Leave a Reply